บทที่ 6 6

“หนูไม่ทิ้ง นี่เป็นเสื้อที่ยายซื้อให้ อีกอย่างหนูไม่ได้ใส่ไปไหน ไม่เห็นต้องทำหน้าดูถูกขนาดนั้นเลย หรือว่าคุณกลัวว่าเสื้อตัวเก่า ๆ ตัวนี้จะทำให้เตียงคุณเปื้อนคะ?” เธอไม่คิดว่าคณากรจะเป็นคนดูถูกคนมากขนาดนี้

“นี่กล้ายอกย้อนเหรอ? เธออายุเท่าไหร่ ฉันอายุเท่าไหร่ อย่ามาตีฝีปาก!” จากที่จะไม่ตอบโต้ แต่คนตัวเล็กก็อดไม่ได้ มีอย่างที่ไหนมาบอกให้เธอเอาเสื้อรักเสื้อหวงตัวนี้ไปทิ้ง

“หนูรู้ค่ะว่าคุณกรแก่กว่าหนูมาก หนูไม่ได้ตีฝีปาก แต่หนูออกความคิดเห็นก็แค่นั้น!” จากที่เห็นเงียบ ๆ มาตอนนี้หญิงสาวพูดยาวจนทำให้ชายหนุ่มลมออกหู อะไรไม่เจ็บเท่ากับคำว่าแก่ เขาอายุสามสิบสองแก่ตรงไหนกัน

“ยะ อย่าเข้ามานะ” มะลิวัลย์ร้องห้ามขึ้นมาทันทีที่เห็นร่างกำยำของคณากรที่จู่ ๆ ก็ลงจากเตียงย่างสามขุมมาหาเธอ แววตาตื่นตระหนกนั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากแกล้งเด็กปากดีตรงหน้าเหลือเกิน

“อะไรกันกลัวเหรอ? นี่ผัวที่เธออยากได้จนตัวสั่นไงเด็กน้อย!” เขาแกล้งพูดออกมา พร้อมสีหน้าท่าทางที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย

“กรี๊ด! อย่าทำอะไรหนูนะคุณกร!”

เสียงมะลิวัลย์ร้องลั่น เธอตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เข้ามาประชิดตัวของเธอ แถมยังยกแขนขึ้นมากอดรัดร่างกายของเธออีกด้วย ยิ่งเห็นคนตัวเล็กดีดดิ้นมากเท่าไหร่ คณากรก็ยังได้ใจ เขากอดร่างบางแน่นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วสูงขึ้นเล็กน้อย ไม่คิดว่าภายใต้เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่มะลิวัลย์สวมใส่จะซ่อนความนุ่มนิ่มเอาไว้ ยามที่ร่างกายของเขาเบียดเสียดทำให้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง บางอย่างที่มันดูโตเกินวัยเสียจริง

คนตัวเล็กน้ำตาเริ่มคลอเบ้า เมื่อท่อนแขนของชายหนุ่มกอดรัดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เหมือนยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอ เด็กสาวที่ไม่เคยใกล้ชิดกับบุรุษเพศมาก่อนก็ยิ่งหวาดกลัวขึ้นมา คณากรเห็นใบหน้าสวยที่ในยามนี้มีน้ำหยดใสเอ่อล้นเบ้าตา เขาก็ยิ่งสะใจที่ได้แกล้งหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลาค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้ ทำให้มะลิวัลย์รีบเบี่ยงหน้าหันไปอีกทางทันที เธอรู้ว่าคนที่มีสามีต้องมีหน้าที่อะไรบ้าง เธอเคยได้ยินเพื่อน ๆ ที่มีแฟนเล่าให้ฟัง แต่ทว่าเรื่องแบบนี้คนตัวเล็กยังไม่ได้ทำใจเลย เธอยังไม่พร้อมที่จะมีอะไรกับผู้ชายคนนี้

“ฮึกฮือ คุณกรอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูยังไม่พร้อม” มะลิวัลย์จำต้องอ้อนวอนอีกฝ่ายให้เห็นใจตน แต่ทว่าสิ่งที่หญิงสาวเผยออกมาสร้างความขบขันให้แก่ชายหนุ่มไม่น้อย เสียงหัวเราะของคนร่างสูงที่ดังออกมา ทำเอาคนตัวเล็กหันกลับไปมองทันที

“เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอ? บอกตามตรงเอาไม่ลงวะ!” เขาพูดพร้อมเผยแววตาชิงชังออกมา เขาไม่ได้พิศวาสเธอจนถึงขั้นจะหลับหูหลับตาทำอะไรได้หรอกนะ อย่างมะลิวัลย์น่ะเหรอ ไม่ได้อยู่ในสเป็กผู้หญิงของเขาเลยสักนิด

“อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย ผู้หญิงอย่างเธอต่อให้แก้ผ้ายืนอยู่ตรงหน้า ฉันยังไม่อยากจะมองให้เสียลูกตา!” แรงของชายหนุ่มที่ผลักร่างบางอรชรให้ออกห่าง ก่อนจะใช้แววตาดูถูกคนตัวเล็ก จนหญิงสาวที่ในตอนนี้สะอึกกับคำพูดของอีกฝ่ายอยู่ก็ถึงกับนิ่งเงียบไปทันที

“ปิดไฟจะนอนแล้ว อ๋อ ส่วนเธอนอนข้างล่าง!” เมื่อได้ยินอย่างนั้นคนตัวเล็กก็รีบเดินไปหยิบหมอนมานอนที่พื้นอย่างที่อีกฝ่ายบอก นอนตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากจะนอนกับเขาเสียหน่อย คนอะไรปากร้ายชะมัด

หญิงสาวพยายามข่มตานอน เธอไม่อยากคิดถึงอะไรอีกแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ แต่ทว่าความเหงาในหัวใจ บวกกับที่ไม่ชินที่ชินทางทำให้คนตัวเล็กนอนไม่หลับ เพียงแค่คืนแรกเขาก็แกล้งเธอแล้ว ต่อไปชีวิตเธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ในบางครั้งหญิงสาวก็อยากจะยอมแพ้ ล้มเลิกทุกอย่าง แต่ความฝันที่เธอใฝ่ฝันเอาไว้ ทำให้มะลิวัลย์จำต้องอดทนต่อไป

‘ทนหน่อยนะมะลิ ทนอีกนิด’

เช้าของอีกวัน

ร่างบางอรชรบิดไปมา ก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ คนตัวเล็กงัวเงียลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าความปวดเมื่อยตามร่างกายทำเอาใบหน้าสวยเหยเกออกมา เมื่อคืนหนาวก็หนาว ผ้าห่มก็ไม่มี จนทำให้คนตัวเล็กไปเอาผ้าขนหนูมาห่มแก้หนาว ไม่รู้ว่าคณากรร้อนหรือแกล้งเธออีกกันแน่ ถึงเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิตั้งสิบแปดองศา ทำเอาหญิงสาวแทบอยู่ไม่ได้

“ตื่นแล้วก็ลุก นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้!” เสียงเข้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำพูดกระแนะกระแหนมะลิวัลย์แต่เช้า คนตัวเล็กหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูเวลาที่ตอนนี้เพิ่งหกโมงเช้า เขาพูดเหมือนเธอตื่นสายอย่างนั้นแหละ

“ฉันจะพาไปทำเรื่องย้ายโรงเรียน อ๋อ ที่พาไปเพราะคุณแม่ ฉันไม่ได้อยากไปด้วยซ้ำ รีบแต่งตัว อย่าทำให้ฉันเสียเวลา  เพราะพรุ่งนี้ฉันจะกลับเชียงใหม่ ไม่มีเวลามารอเธอ เข้าใจไหมมะลิวัลย์?”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป